tag:blogger.com,1999:blog-11212905.post111648415869185505..comments2023-08-25T09:48:48.612-04:00Comments on Medieval Marsupial Meanderings: Violin Posting No. 5: Tone productionAFhttp://www.blogger.com/profile/14850847392158378828noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-11212905.post-1117521480047496182005-05-31T01:38:00.000-05:002005-05-31T01:38:00.000-05:00การสร้างโทนเสียงที่คุณสมบัติต่างๆ กันจะต้องโฟกัสไป...การสร้างโทนเสียงที่คุณสมบัติต่างๆ กันจะต้องโฟกัสไปที่การใช้คันชักและแขนขวา ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อและจุดหมุนต่างๆ เราสามารถสร้างเสียงที่ “นุ่มนวลไม่แข็งกระด้าง (Warm)”, “เสียงเปิดและใหญ่ (Open and Big)” แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ความหมายเดียวกับ “เสียงดัง (Loud)” แต่เสียงที่เปิดและใหญ่มีคุณสมบัติในเชิงกำลังการส่งของเสียงซึ่งไปได้ไกล (Projection) คนที่นั่งอยู่หลังห้องหรือยืนที่ไกลๆ จะได้ยิน<BR/><BR/>ต่อไปนี้จะได้อธิบายเทคนิคการใช้แขนขวาของนักไวโอลินระดับโลกที่เด่นๆ แต่ละคน<BR/><B>1. Oistrakh (เส้นสีแดง) </B> : ในการเล่นไวโอลินโดยปกติแล้วการสร้างแรงกดที่คันชักมักใช้แรงกดที่นิ้วชี้หรือการใช้น้ำหนักของแขนอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น สำหรับ Oistrakh เขาแนะนำให้ใช้น้ำหนักของแขนท่อนบนในเพื่อให้เกิดกำลังส่งของเสียงที่ดี (Projection) สำหรับการเล่นวิโอล่ามักไม่ค่อยใช้แรงกดที่นิ้วชี้มากนัก ส่วนเชลโลเค้าจะเน้นไปที่ทิ้งกลางมากกว่า<BR/><BR/><B>2. Primrose (เส้นสีเหลือง)</B> : วิลเลียม พริมโรส เป็นนักวิโอล่าที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในยุคหลังๆ นี้ เขามีชื่อในเรื่องน้ำเสียงการเล่นที่เปิดกว้างและใหญ่ เขาบอกว่า สำหรับเขาเค้าแยกความรู้สึกหรือความแตกต่างของการใช้น้ำหนักแขนและการใช้กล้ามเนื้อหลังไม่ได้ชัดเจนนัก แต่เขาใช้วิธีจินตนาการว่ามีรูอยู่บนพื้นและมีเชือกเส้นหนึ่งมาผูกที่ข้อศอกโยงลงไปในรูนั้น และมีใครสักคนดึงเชือกอยู่ใต้พื้นนั้น เหมือนๆ การดึงเชือกสั่นระฆัง<BR/><BR/><B>3. Vengerov (เส้นสีน้ำเงิน) </B> : เขามักเล่นโดยเอียงตัวไปด้านหลัง เหมือนกับขยับจุดศูนย์ถ่วงของลำตัวเพื่อให้ใช้น้ำหนักของแขนได้ดีขึ้น นี่เป็นเทคนิคที่น่าลอง ผมพบว่าใช้ได้ผลดีแต่มีปัญหาตรงที่ถ้าเล่นในท่านี้นานๆ มักจะปวดหลัง<BR/><BR/><B>4. บรรดาอาจารย์ของผม : </B><BR/><B><I>Lim Soon Lee (เส้นสีฟ้า) </I></B> : เขาแนะนำว่าให้จินตนาการลากเส้นโค้ง (ส่วนหนึ่งของวงกลม) ในวงรอบแขน เริ่มจากกล้ามเนื้อด้านหลังมาถึงนิ้วก้อย และให้เล่นเปิดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่างคือจินตนาการว่าท่อนแขนด้านบนดันกับกำแพงเพื่อให้ได้สมดุลย์ในเรื่องของการยก (float) และการเอียง (lean) ของแขน<BR/><BR/><B>อาจารย์ชูชาติ พิทักษ์สาคร </B>: แนะนำให้ฝึกยกแขนขึ้นทั้งสองข้าง (วางไวโอลินกับคันชักก่อนนะ) แล้วทิ้งแขนลงแบบปล่อยตามธรรมชาติไม่ต้องบังคับให้ตกลงมาทางนั้นทางนี้ แค่ปล่อยให้มันตกลงมาโดยไม่บังคับอะไรเลย เพื่อให้รูสึกถึงน้ำหนักของแขนตามธรรมชาติ<BR/><BR/>5. สำหรับผมเอง : การสร้างโทนเสียง ผมคิดว่าวิธีการใช้น้ำหนักแขนและการเข้าใจหลักการ “การยกและการเอียง” เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่าย ถ้าใครทำได้ลองไปที่สระว่ายน้ำลงน้ำแล้วให้รู้สึกถึงการลอยอย่างเป็นธรรมชาติจากแรงพยุงของน้ำ ลองว่ายท่าฟรีหรือกรรเชียงโดยไม่ใช้กล้ามเนื้อหลังดูว่ารู้สึกอย่างไร จากนั้นค่อยลองว่ายแบบตามปกติธรรมชาติ เทคนิตการใช้กล้ามเนื้อหลังนี้แหละที่ใช้กับการเล่นไวโอลิน<BR/><BR/>ลองอ่านเรื่อง Stringstorming ดูเผื่อจะมีประโยชน์นะ (ดูตรง Side Bar)<BR/><BR/>มุกุAnonymousnoreply@blogger.com